ความเชื่อมั่นกลับมาแล้ว: ฮัดสัน-โอดอย มุ่งมั่นกลับสู่ทีมชาติ อังกฤษ

คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย
ความเชื่อมั่นกลับมาแล้ว: ฮัดสัน-โอดอย มุ่งมั่นกลับสู่ทีมชาติ อังกฤษ

คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย (Callum Hudson-Odoi) รู้สึกเหมือนเขากำลังเริ่มต้นอาชีพใหม่อีกครั้ง ปีกวัย 24 ปีคนนี้มีสภาพจิตใจที่พร้อมลงสนามในทุกๆ เกม ด้วยความเชื่อมั่นว่าเขาสามารถทำประตูหรือแอสซิสต์ได้ และยังหวังจะกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่อีกครั้ง รวมถึงโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองต่อหน้า โธมัส ทูเคิล (Thomas Tuchel)

ปัจจุบัน ฮัดสัน-โอดอย (Hudson-Odoi) เป็นกำลังสำคัญของสโมสร น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest) ทีมที่มีฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งในลีก พรีเมียร์ลีก (Premier League) จนมีลุ้นคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรายการ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) นอกจากนี้ ฟอเรสต์ (Forest) ยังมีคิวเยือน ไบรท์ตัน (Brighton) ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ (FA Cup) ในวันเสาร์นี้อีกด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อหกปีก่อน ฮัดสัน-โอดอย (Hudson-Odoi) เคยเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดของวงการฟุตบอล อังกฤษ เขาคือเด็กปั้นยอดเยี่ยมจากอคาเดมีของ เชลซี (Chelsea) จนทำให้สโมสรปฏิเสธข้อเสนอซื้อตัวจาก บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม ปี 2019

เขาได้ประเดิมลงสนามให้กับทีมชาติ อังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต (Gareth Southgate) ในเดือนมีนาคม โดยลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมที่ชนะ เช็ก (Czech Republic) 5-0 ในรอบคัดเลือก ยูโร 2020 (Euro 2020) ด้วยวัยเพียง 18 ปี ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติ อังกฤษ ในเกมทางการ ทำลายสถิติของ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ (Duncan Edwards) ที่ทำไว้เมื่อ 64 ปีก่อน

แต่ในเดือนเมษายน 2019 เขาประสบปัญหาบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายฉีกขาดในเกมที่พบกับ เบิร์นลีย์ (Burnley) เอ็นได้หลุดออกจากกระดูกอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้เขาต้องพักรักษาตัวนานถึงเจ็ดเดือน และยังมีความเจ็บปวดตามมาอีกหลายครั้งและหากใครไม่อยากพลาด www.pic5678.com สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

“ผมกำลังลงเล่นในทุกๆ สัปดาห์ ได้รับการเรียกติดทีมชาติ อังกฤษ ครั้งแรก แล้วจู่ๆ ทุกอย่างก็พังทลายลง” เขาเล่าให้ บีบีซี สปอร์ต (BBC Sport) ฟัง “มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก”

“ในตอนนั้น ผมแค่คิดว่าผมจะกลับมาเป็นนักเตะคนเดิมได้ไหม? ผมจะวิ่งหรือเตะบอลได้อีกหรือเปล่า?”

เมาริซิโอ ซาร์รี (Maurizio Sarri) เป็นผู้จัดการทีม เชลซี (Chelsea) ในช่วงที่เขาบาดเจ็บ ตามมาด้วย แฟรงค์ แลมพาร์ด (Frank Lampard) แต่เป็น ทูเคิล (Tuchel) ที่ให้โอกาส ฮัดสัน-โอดอย (Hudson-Odoi) ลงสนามมากที่สุดในช่วงที่อยู่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ (Stamford Bridge)

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ได้ราบรื่นนัก ทูเคิล (Tuchel) ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมชาติ อังกฤษ เคยมี “ความรักที่เข้มงวด” ต่อเขา

ในเกมเสมอกับ เซาแธมป์ตัน (Southampton) 1-1 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ฮัดสัน-โอดอย (Hudson-Odoi) ถูกส่งลงสนามในครึ่งหลัง แต่แล้วก็ถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจากผ่านไปเพียง 31 นาที โดยกุนซือชาว เยอรมัน บอกกับสื่อว่าเขา “ไม่พอใจกับทัศนคติ พลังงาน และการกดดันคู่ต่อสู้”

“อาจจะไม่ยุติธรรม แต่นั่นคือความรู้สึกของผม” ทูเคิล (Tuchel) กล่าว

“ผมเปลี่ยนเขาออก เราต้องการความทุ่มเท 100% ผมรู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะช่วยเรา”

“เขารู้ว่าผมต้องการอะไรจากเขา และเมื่อเขาทำไม่ได้ตามระดับนั้น มันเป็นการตัดสินใจที่ยาก”

มาถึงฤดูกาลนี้ ฟอร์มการเล่นของ ฮัดสัน-โอดอย (Hudson-Odoi) กับ ฟอเรสต์ (Forest) – ทำไป 5 ประตู และ 2 แอสซิสต์ – นำไปสู่การคาดการณ์ว่าเขาอาจจะได้กลับมาติดทีมชาติ อังกฤษ ชุดแรกของ ทูเคิล (Tuchel) หลังจากที่เขาลงเล่นให้กับทีมชาติครั้งล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2019 ในเกมชนะ โคโซโว (Kosovo) 4-0

แม้เขาจะพลาดโอกาสติดทีม 26 คน แต่เมื่อพูดถึงการเล่นภายใต้การคุม ทูเคิล (Tuchel) ก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติ เขากล่าวว่า: “เรามีความแตกต่างกันในบางครั้ง และนั่นเป็นเรื่องปกติ ทุกนักเตะและโค้ชล้วนมีความแตกต่างกัน”

“เหมือนกับ [เมื่อ ทูเคิล (Tuchel) ส่งผม] เล่นในตำแหน่งวิงแบ็ค และผมก็คิดว่าทำไมผมถึงอยู่ตรงนี้?”

“แต่มันเป็นประโยชน์ต่อทีมและตัวผมเอง ช่วยให้ผมพัฒนาเกมรับของตัวเอง”

“เป็นเรื่องดีที่เรามีช่วงเวลาแบบนั้นและเราได้พูดคุยกันเกี่ยวกับมัน เขาเป็นผู้จัดการที่ยอดเยี่ยมและรู้ว่าจะดึงศักยภาพสูงสุดออกมาจากนักเตะได้อย่างไร”

“ถ้ามีโอกาส [สำหรับทีมชาติ อังกฤษ] เกิดขึ้น – ผมจะต้องไปที่นั่นและพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง”

“ผมแค่ควบคุมสิ่งที่ผมควบคุมได้ มันเกี่ยวกับการสนุกกับฟุตบอลอีกครั้ง ยิ้มแย้ม และมองโลกในแง่บวก”

ฮัดสัน-โอดอย (Hudson-Odoi) กล่าวว่าเขา “โตขึ้น” หลังจากผ่านประสบการณ์มากมายตั้งแต่เริ่มอาชีพนักฟุตบอลเมื่ออายุ 17 ปี

เขายืนยันว่าแรงจูงใจในการกลับมาสู่ระดับที่ทำให้เขาเป็นเยาวชนที่น่าจับตามองที่สุดในประเทศนั้นมาจากภายในตัวเขาเอง

“ผมไม่ต้องการพิสูจน์อะไรกับใคร” เขากล่าว “มันเกี่ยวกับการพิสูจน์ต่อตัวเองว่าผมยังคงเป็นนักเตะคนนั้นได้ – เพื่อกลับไปสู่ระดับที่ผมรู้ว่าผมจะทำประตูหรือแอสซิสต์ได้ – และมีความมั่นใจที่รู้ว่าผมจะสร้างผลกระทบในทุกเกม”

ฮัดสัน-โอดอย (Hudson-Odoi) ยังฝันถึงความสำเร็จภายใต้การคุมทีมของ นูโน เอสปิริโต ซานโต (Nuno Espirito Santo) ผู้จัดการทีม ฟอเรสต์ (Forest)

“ในฤดูกาลนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป – ตั้งแต่สภาพจิตใจไปจนถึงความมุ่งมั่น” เขากล่าว

“มันเป็นแรงขับเคลื่อนอันยิ่งใหญ่จากพวกเราและเรากำลังพยายามผลักดันกันและกันทุกวัน เรารู้ว่าเรามีความสามารถที่จะทำสิ่งนี้”

“เรารู้ว่าเราอยู่ตรงไหน แต่เราต้องฝันและเชื่อมั่นต่อไปในฐานะทีม”

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และหากใครไม่อยากพลาด www.pic5678.com สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

 

ความขัดแย้งกับ สวิตเซอร์แลนด์ เป็น ‘เรื่องในอดีต’ – แพดดี้ แมคแนร์ ของ ไอร์แลนด์เหนือ

แพดดี้ แมคแนร์

แพดดี้ แมคแนร์ (Paddy McNair) กล่าวว่าความขัดแย้งระหว่าง ไอร์แลนด์เหนือ กับ สวิตเซอร์แลนด์ เป็น “เรื่องในอดีต” ก่อนเกมกระชับมิตรระหว่างทั้งสองทีมในวันศุกร์นี้

ในรอบเพลย์ออฟฟุตบอลโลก 2018 นัดแรก คอร์รี่ อีวานส์ (Corry Evans) ถูกตัดสินอย่างเป็นที่ถกเถียงว่าเล่นผิดกติกาด้วยการใช้มือในเขตโทษ ทั้งที่บอลดูเหมือนจะโดนที่ไหล่ของเขา ซึ่งทำให้ สวิตเซอร์แลนด์ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปอย่างหวุดหวิด

จากนั้นในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 กองหลัง จามาล ลูอิส (Jamal Lewis) ถูกแสดงใบเหลืองเป็นใบที่สองจากการทำเสียเวลาในจังหวะทุ่ม ทำให้ ไอร์แลนด์เหนือ แพ้ไป 2-0 ที่เจนีวา

“ผมคิดว่าเราแค่อยากเอาชนะพวกเขา” แมคแนร์ ซึ่งจะสวมปลอกแขนกัปตันที่ วินด์เซอร์ พาร์ค กล่าว

“เหตุการณ์ในปี 2018 กับจังหวะแฮนด์บอลของ คอร์รี่ มันทำเจ็บปวดมาก และการที่ จามาล โดนใบเหลือง 2 ใบในเกมล่าสุดนั้นน่าหงุดหงิดมาก”

“แต่ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องในอดีตแล้ว เมื่อคุณลงเล่นเกมไหนก็ตาม คุณต้องการชนะเสมอ”

“พวกเขามีผู้เล่นที่แตกต่างไปมาก และเราก็เช่นกัน ดังนั้นผมไม่คิดว่าเราจะพูดถึงเรื่องนั้นมากนัก”

แมคแนร์ ย้ายไป สหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมทีม ซาน ดิเอโก ในเมเจอร์ลีกซอคเกอร์ (MLS) เมื่อเดือนมกราคม หลังจากช่วงเวลาที่ เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน

กองหลังวัย 29 ปี อดีตผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ มิดเดิลสโบรห์ กล่าวว่าเขาจะไม่ย้ายไป อเมริกา หากการย้ายครั้งนี้จะทำให้ตำแหน่งของเขาในทีมชาติ ไอร์แลนด์เหนือ ตกอยู่ในความเสี่ยงและหากใครไม่อยากพลาด สโบเบ็ตมือถือ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

“ผมสนุกกับมันมาก ทั้งฟุตบอลและทุกอย่างเกี่ยวกับมัน” เขากล่าวเสริม

“การเล่นให้ ไอร์แลนด์เหนือ มีความพิเศษสำหรับผมเสมอ ผมจะสวมเสื้อสีเขียวให้นานที่สุดเท่าที่ผมทำได้”

“ตอนผมยังเด็ก ผมไปดูเกมเกือบทุกนัด ผมชอบมาที่ วินด์เซอร์ พาร์ค เสมอ และผมรักการเล่นเพื่อประเทศของผม”

แมคแนร์ เป็นสมาชิกคนสุดท้ายจากทีมชุด ยูโร 2016 และตอนนี้เป็นผู้เล่นอาวุโสที่สุดในทีมชุดปัจจุบันของ ไมเคิล โอนีล (Michael O’Neill)

เขาจะสวมปลอกแขนกัปตันในวันศุกร์ ซึ่งได้หมุนเวียนไปรอบๆ ทีมหลังการเกษียณของ จอนนี่ อีวานส์ (Jonny Evans) และ สตีเวน เดวิส (Steven Davis) และกล่าวว่าเขาจะพยายาม “นำโดยการเป็นแบบอย่าง” ในทีม ไอร์แลนด์เหนือ ที่มีผู้เล่นอายุน้อย

เกมกระชับมิตรกับ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันศุกร์และการเดินทางไป สวีเดน ในวันอังคารจะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับแคมเปญคัดเลือกฟุตบอลโลกของ ไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งจะเริ่มในเดือนกันยายน และ แมคแนร์ เชื่อว่า ไอร์แลนด์เหนือ มีคุณภาพพอที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายในปี 2026

“เรามีผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากมาย และในแต่ละแคมเปญพวกเขาก็ได้รับประสบการณ์มากขึ้น ในระยะยาวนี่เป็นทีมที่น่าตื่นเต้นมาก” เขากล่าว

“ผมแค่หวังว่าเราจะสามารถผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกได้ มันจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะไปถึงจุดนั้น”

แพดดี้ แมคแนร์ (Paddy McNair) ยังได้เน้นย้ำถึงความภาคภูมิใจในการเป็นตัวแทนของ ไอร์แลนด์เหนือ ในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงของทีม หลังจากการเกษียณของผู้เล่นคนสำคัญหลายคน นับเป็นโอกาสสำคัญที่เขาจะได้นำทีมในฐานะกัปตันคนใหม่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เล่นรุ่นใหม่

การเผชิญหน้ากับ สวิตเซอร์แลนด์ ครั้งนี้ แม้จะเป็นเพียงเกมกระชับมิตร แต่ก็มีความหมายเชิงสัญลักษณ์สำหรับ ไอร์แลนด์เหนือ หลังจากประสบการณ์อันขมขื่นในการเจอกันครั้งก่อนๆ ทั้งในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 ที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งเกิดขึ้น

ไมเคิล โอนีล (Michael O’Neill) กุนซือของทีมได้วางแผนใช้เกมนี้และเกมกับ สวีเดน เป็นโอกาสในการทดลองแท็คติกและให้โอกาสกับผู้เล่นหน้าใหม่ได้แสดงศักยภาพ ก่อนที่การแข่งขันที่สำคัญกว่าจะมาถึงในเดือนกันยายน

ความหวังของ ไอร์แลนด์เหนือ ในการผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2026 นับเป็นเป้าหมายที่ท้าทายแต่ไม่พ้นวิสัย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากการที่ฟุตบอลโลกครั้งหน้าจะมีการขยายจำนวนทีมที่เข้าร่วม ทำให้โอกาสสำหรับชาติขนาดเล็กอย่าง ไอร์แลนด์เหนือ มีมากขึ้น

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ ราสมุส ฮอยลุนด์ มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และหากใครไม่อยากพลาด สโบเบ็ตมือถือ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ